15 ธันวาคม 2017
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร อ.ธารโต จ.ยะลา นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เดินทางเป็นประธานพิธีเปิดการจัดอบรมเทคโนโลยีการผลิตกาแฟโรบัสต้าและมอบต้นกล้ากาแฟโรบัสต้าจำนวน 40,000 ต้น ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ โดยนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจ.ยะลา นายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นายสุภรณ์ ด้วงดี ตัวแทนบริษัท เซาท์เทิร์นแอกริคัลเชอะโปรดักส์ และเกษตรกรชาวอ.ธารโตอ.เบตง จำนวน 60 คน เข้าร่วมพิธี
“ห้วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา พื้นที่การปลูกกาแฟของประเทศไทยลดลงอย่างมาก เพราะมีพืชอื่นมาแย่งพื้นที่ไป เนื่องจากมีราคาที่สูงกว่า แต่ปัจจุบันความต้องการกาแฟในประเทศค่อนข้างสูง เนื่องจากบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป กาแฟในประเทศไม่เพียงพอ จึงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย หรือ สปป.ลาว จึงเป็นเรื่องที่ดีที่มีโครงการนี้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ได้มีโอกาสมีรายได้เสริมจากกาแฟ ที่การผลิตกาแฟในพื้นที่นี้จะมุ่งเน้นไปที่กาแฟที่มีคุณภาพมากกว่ากาแฟทั่ว ๆ ไป นี่คือประเด็นที่ต้องการ ซึ่งการปลูกกาแฟนั้นใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิตได้แล้ว”
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่าการส่งเสริมการปลูกต้นกาแฟในพื้นที่ อ.ธารโต และอ.เบตง เป็นความร่วมมือในการนำพืชที่มีศักยภาพมาให้เกษตรกรได้มีอาชีพเสริม ด้วยการปลูกเสริมในสวนทุเรียน หรือสวนยางพารา โดยเฉพาะในสวนทุเรียนที่จะมีพื้นที่ว่างและแสงเพียงพอเหมาะในการปลูกต้นกาแฟเป็นรายได้เสริม หรือพี่น้องเกษตรกรบางส่วนอาจจะปลูกต้นกาแฟอย่างเดียวก็สามารถทำได้ เพื่อที่จะลดการพึ่งพาการปลูกพืชเชิงเดียว ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้เกษตรกรลดความเสี่ยงจากการมีรายได้จากพืชใดพืชหนึ่งเพียงฤดูกาลเดียว เป็นวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ ประกอบกับพบว่าหลังจากทดลองปลูกกาแฟในพื้นที่ อ.ธารโต ในห้วงที่ผ่านมาได้กาแฟที่มีคุณภาพ
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่ากาแฟโรบัสต้า เป็นสายพันธุ์กาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมกาแฟ เพราะมีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม จึงมีการปลูกกันมากอย่างกว้างขวาง สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่และสภาพอากาศของภาคใต้ อีกทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีอนาคตไกล สามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวยะลาปลูกแซมในสวนยางพาราและสวนผลไม้ อันจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการเกษตรของยะลาได้เป็นอย่างดี จึงนับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่กรมวิชาการเกษตรจะฝึกอบรมเทคโนโลยีการผลิตแกแฟโรบัสต้าให้แก่เกษตรกรชาวยะลา พร้อมกับมอบต้นกล้ากาแฟโรบัสต้าชุดแรกมาทดลองการปลูกกาแฟโรบัสต้าอย่างจริงจัง
ข้อมูลเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่าเศรษฐกิจจ.ยะลาปัจจุบันมาจากภาคการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะจากการปลูกยางพาราครอบคลุมทุกพื้นที่แต่ในปัจจุบันราคายางพาราตกต่ำลงอย่างมาก ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจจังหวัดซบเซาอย่างเห็นได้ชัด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาภาคการเกษตรของจังหวัดด้วยการหาพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่เข้ากับสภาวะแวดล้อมภูมิอากาศและดินของพื้นที่ อีกทั้งต้องเป็นพืชที่มีอนาคตและเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศและตลาดโลกนายพงษ์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย